มารู้จัก "ถั่งเช่า" สมุนไพรจีนราคาแสนจะแพงกันเถอะ...

มารู้จัก "ถั่งเช่า" สมุนไพรจีนราคาแสนจะแพงกันเถอะ...

ชื่อไทย               :   ถั่งเช่า (chong cao) หรือ
                              ตังถั่งเช่า (dong chong cao) หรือ
                              ตังถั่งแห่เช่า (dong chong xia cao)

ชื่ออังกฤษ           :  Cordyceps Mushroom หรือ
                              Caterpillar Fungus
                   
ชื่อวิทยาศาสตร์  :   Hepialus Armoricanus Oberthiir ส่วนที่เป็นตัวหนอน คือตัวหนอนของผีเสื้อ
                              Cordyceps Sinensis (Berk.) Saec. เห็ดที่อยู่ส่วนบนตัวหนอน

 วงศ์                   :   Clavicipataceae

ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรจีน มีความหมายว่า "หญ้าหนอน" หรือ "ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า" 

ถั่งเช่าเกิดจากหนอนผีเสื้อแถบที่ราบสูงทิเบต ที่จำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว ถูกสปอร์ของเห็ดราในสกุล Ophiocordyceps อาศัยเป็นปรสิตและเติบโตสร้างเส้นใยออกมาทางส่วนหัวของตัวหนอนในฤดูร้อน เห็ดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis


ถั่งเช่า พบในประเทศทิเบต ประเทศจีน มณฑลชิงไห่ มณฑลเสฉวน มณฑลกานซู มณฑลยูนนาน และแถบเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย ภูฏาน และเนปาล มีสรรพคุณในการบรรเทาอาหารหย่อนและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงเชื่อว่ารักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย มีความต้องการในท้องตลาดสูง และมีราคาแพง

พูดถึงราคาที่ซื้อหากันตามแหล่งร้านยาจีนแถวเยาวราชว่ากันว่า ราคาแพงระยับ แต่ถึงอย่างไรก็มีคนกล้าซื้อกินกัน  แต่ราคาที่ว่า ถ้าเป็นเกรดล่างหรือเกรดทั่ว ๆ ไปก็จะราคากิโลกรัมละ 250,000.- แต่ถ้าเป็นเกรดดี ราคาก็จะเป็นกิโลกรัมละ 2,500,000.- ขึ้นไป แพงระยับแทบไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยคะ  จะเพราะอะไร คงสงสัยกันแล้วล่ะสิคะว่าทำไม มันดีต่อผู้รักษ์สุขภาพขนาดไหน มาอ่านกันต่อกันเลยค่ะ

ราคานั้นจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล ๆ ไหนมีของน้อย ราคาก็จะแพง ฤดูกาลไหนเป็นฤดูถั่งเช่า ราคาก็จะถูก ซึ่งราคาจะแพงน้อยมากแค่ไหน ยังขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาด้วย แต่อย่างไรก็ดี  ก็ไม่ห่างจากราคามาตรฐานไปสักเท่าไร ทั้งยังมีคำบอกเล่าว่า ถั่งเช่าแท้ ๆ นั้นหาแทบจะไม่ได้แล้ว ฉะนั้นระวังโดนหลอกนะคะ

ถั่งเช่ามีสารอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ดังนี้

1.  สารคอร์ไดเซปิน (Cordycepin)

-  ช่วยบรรเทาอาการไตอักเสบและนิ่วในไต
-  ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรค
-  บำรุงและฟื้นฟูระบบการทำงานของไตและปอด
-  เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต

2.  กรดคอร์ไดเซปิก (Cordycepic Acid)

-  ชะลอภาวะเลือดออกในสมอง ลิ่มเลือด โรคหัวใจขาดเลือด และหอบหืด
-  ช่วนกระตุ้นกระบวนการ Metabolism ทำให้ร่างกายมีพลัง แข็งแรง ไม่เหนื่อยง่าย

3. สเตอรอล (Sterol)

-  ป้องกันโรคหอบหืด
-  ป้องกันโรค Lupus Erythematosus (SLE)
-  ป้องกันไตอักเสบเรื้อรัง
    Chomic Kidney Inflammation
-  เพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจ

4. โปรตีน กรดอะมิโน (Amino Acid) 
    และวิตามิน E, K, B1, B2, B12

5. สารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide)

-  ช่วยบรรเทาอาการแทรกซ้อน หรือป่วยซ้ำซ้อนจากโรคเบาหวาน
-  ลดระดับน้ำตาลในเลือด โคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือด)
-  ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมความเสียหายของกลุ่มเซลล์ที่เกิดจากติดเชื้อไวรัส
-  ช่วยรักษาสมดุลการทำงานของระบบประสาท ระบบฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกัน
-  ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก ป้องกันไม่ให้เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสกลายเป็นเซลล์เนื้อร้าย
-  ช่วยต่อต้าน ยับยั้ง และทำลายการลุกลามของเซลล์มะเร็ง
-  ช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัด

6. สารไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide)

-  ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
-  สามารถกดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งบางชนิด
-  มีส่วนสำคัญกับสารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ทั้งหลาย
-  ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตอวัยวะส่วนปลายทั้งหมด (แขน, ขา, สมอง, ต่อมลูกหมาก ฯลฯ)
-  ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ
-  เพิ่มจำนวนเชื้ออสุจิที่แข็งแรงมากขึ้น เหมาะกับผู้ชายที่มีลูกยาก เกิดอาการหลั่งเร็ว

ประโยชน์ของถั่งเช่า

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการ

-  ภูมิแพ้ 

-  หอบหืด 

-  โรคปอด 

-  มะเร็งที่ปอด 

-  วัณโรค 

-  หลอดลมตีบ 

-  แพ้อากาศ 

-  โรคหัวใจ 

-  โรคตับ 

-  โรคสมอง

-  เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด 

-  ลดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก
-  เยื่อบุผนังหลอดลม ทำให้ผนังหลอดลมคลายตัว หายใจสะดวก
-  เพิ่มอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงสมอง
-  ช่วยอาการของโรคอัลไซเมอร์
-  ช่วยลดอาการของโรคพาร์กินสัน
-  ช่วยกำจัดอนุุมูลอิสระ
-  ชะลอความแก่ สร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่า

รายงานการวิจัยในมนุษย์

-  กรณีศึกษาฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด

              โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานถั่งเช่า 3 กรัม / วัน พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ขณะที่กลุ่มที่รักษาด้วยยาแผนปัจจุบันสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้แค่ 54%

-  กรณีศึกษาฤทธิ์ต่อการฟื้นฟูระบบการทำงานของไต

              โดยให้ผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรังรับประทานถั่งเช่า 3 - 5 กรัม / วัน พบว่าการทำงานของไตมีประสิทธิภาพดีขึ้น และเมื่อให้ทานต่อเนื่อง 1 เดือน พบว่าสามารถลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากไตวาย ได้แก่ ลดความดันโลหิต ลดระดับโปรตีนในปัสสาวะ ลดการเกิดภาวะโลหิตจาง และช่วยเพิ่มเอนไซม์ Superoxide Dismutasw (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
               และมีรายงานว่าการให้ผู้ป่วยที่การทำงานของไตบกพร่องจากการใช้ยา Gentamicin รับประทาน 4.5 กรัม / วัน  ส่งผลให้ระบบการทำงานของไตดีขึ้นเป็นปกติ 89%  เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมหลังจากรับประทานถั่งเช่าภายใน 6 วัน

-  กรณีศึกษาฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

               โดยทำการศึกษาในผู้ชาย 5 คน อายุเฉลี่ย 35 ปี ที่ถุงลมถูกกระตุ้นให้อักเสบด้วย
Lipopolysaccaride (LPS) พบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบได้ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น

-  กรณีศึกษาฤทธิ์ต่อการกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ

                จากการวิจัยในผู้ชาย 22 คน พบว่า ช่วยเพิ่มจำนวนของสเปิร์มในอสุจิได้ 33% และมีผลลดปริมาณของสเปิร์มที่ผิดปกติลง 29%
                 และอีกกรณีศึกษาในชายและหญิง 189 คน ที่มีความต้องการทางเพศลดลง พบว่าช่วยให้อาการและความต้องการทางเพศสูงขึ้น 66% นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยสนับสนุนว่าการรับประทานถั่งเช่าจะช่วยปกป้อง และช่วยให้การทำงานของต่อมหมวกไต ฮอร์โมนจากต่อมไทมัส และจำนวนของสเปิร์มที่สามารถปฏิสนธิได้เพิ่มขึ้น 300%  และช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้ 86%

การศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

                 ทดลองในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองพบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ปรับสมดุลของร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ และกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น

ขนาดและวิธีใช้ที่เหมาะสม

        ผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปี) วันละ 1 - 9 กรัม
        ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผลิตได้มาตรฐาน มีฉลากกำกับถึงส่วนประกอบ
        และวิธีการรับประทานที่ชัดเจน

ข้อควรระวัง

1.  หญิงมีครรภ์ หญิงระยะให้นมบุตร และเด็ก ห้ามรับประทาน เพราะยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ
2.  ระวังการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้
     จะไปเสริมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด
3.  ระวังในการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
     เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
4.  ระวังในการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive)
     ทั้งนี้เพราะว่าถั่งเช่ามีฤฺทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน


แหล่งอ้างอิง : 

-  รองศาสตราจารย์ ดร.นพ.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ และ
   ธิดารัตน์  จันทร์ดอน (สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)
   : ถั่งเช่า สมุนไพรสุดฮิต http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=153
-  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
-  http://th.wikipedia.org
-  www.tangchou.net
-  http://thungchao.wordpress.com
-  www.ganolingzhi.com
-  www.greenarald.com
-  www.maccordyonline.com
-  www.biopanax.com
-  http://sites.google.com/site/vipcordyceps
-  http://pattayawhey.com
-  Shashidhar MG, Giridhar P, Udaya Sankar K, Manohar B.Bioactive principles from Cordyceps    sinensis : A potent food supplement - A review. J Functional Food 2013;5(3):1013-30